เมื่อเราได้กลิ่นอะไรสักอย่างจะนึกถึงถึงอะไร บางคนมีความทรงจำหรือจินตนาการบางอย่างเกี่ยวกับกลิ่น ด้วยเหตุนี้จึงมีกลุ่มทำงานศิลปะจัดตั้งโครงการ The Nose Thailand “ศิลปะสร้างและสัมผัสได้จากกลิ่น” ร่วมกับภาคเอกชนและองค์กรต่างๆ ได้แก่ กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ , Givaudan,มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย, สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย,สมาคมศิลปินทัศนศิลป์นานาชาติแห่งประเทศไทย จัดนิทรรศการ “Everyone can do art ภายใต้ธีมงาน Imperfect ความไม่สมบูรณ์” ที่ศิลปินตาบอดร่วมกับศิลปินตาดีสร้างสรรค์ผลงานศิลปะโดยใช้ ‘สีมีกลิ่น’ ขึ้นครั้งแรก ภายในงานมีกิจกรรมมากมาย เพื่อส่งเสริมผู้พิการทางสายตาได้เข้าถึงและพัฒนาศักยภาพทางศิลปะ และเพื่อสบทบทุนมอบอุปกรณ์สีมีกลิ่นและชุดการสอนให้กับโรงเรียนสอนคนตาบอดทั่วประเทศ โครงการดีๆที่เชื่อในพลังของกลิ่น เชื่อในพลังของศิลปะของคนพิการทางสายตาสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ ที่จัดขึ้น ณ บริเวณ ชั้น 2 Lifestyle Hall ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก
คุณมาริสา ธเนศวงศ์ หัวหน้าคณะผู้จัดตั้งโครงการ The Nose Thailand“ศิลปะสร้างและสัมผัสได้จากกลิ่น” กล่าวว่า นิทรรศการ “Everyone can do art ภายใต้ธีมงาน Imperfect ความไม่สมบูรณ์” เป็นกิจกรรมส่งเสริมงานศิลปะร่วมกับคนพิการทางสายตา มาเรียนรู้ศิลปะร่วมกัน สมาชิกผู้ก่อตั้งและจัดงานมีทั้งผู้ที่คลุกคลีกับผู้พิการทางสายตา นักศิลปะบำบัด และผู้เชี่ยวชาญด้านกลิ่น เพราะกลิ่นคือเคล็ดลับตั้งต้นที่จะทำให้คนตาบอดสร้างงานศิลปะได้เหมือนทุกคนเป้าหมายหลักไม่ใช่เพื่อสร้างคนตาบอดเป็นศิลปินเท่านั้น แต่คือการเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้คนตาบอดเลือกทำอาชีพที่หลากหลายขึ้นซึ่งพลังของศิลปะที่จะช่วยสร้างเสริมทักษะการใช้ชีวิต พร้อมทั้งบริหารใจให้แข็งแรงไปพร้อมกันๆกันด้วย
โดยภายในงานนิทรรศการจะพบกับ Zone Workshop ที่จะชวนมาปลดปล่อยจินตนาการผ่านพลังของ ‘กลิ่น’ ที่จะปลดล็อกศักยภาพศิลปะของทุกคนกันตลอดทั้งวัน Zone Exhibition เสพงานศิลป์กว่า 20 ผลงาน หลากหลายรูปแบบทั้งงานวาด งานเพ้นท์ งานปั้น และอื่นๆ โดยไม่ใช้สายตาและ Zone Auditorium พบกับ Talk จากศิลปินที่จะเล่าประสบการณ์การทำงานศิลปะในความมืด และกิจกรรมอื่นๆ ที่จะชวนมาสัมผัสความสวยงามที่ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา ผ่านหนังสั้น ผ่านการเต้น และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
โดยมีอุปกรณ์ทางศิลปะที่เหมาะสม ช่วยให้คนพิการทางสายตาสามารถ เรียนรู้ศิลปะ โดยใช้ ‘สีมีกลิ่น’ ขึ้นครั้งแรก เสียง และรสชาติ เข้ามาช่วยแหลือ พร้อมกับจำหน่ายผลงานทางศิลปะเพื่อสบทบทุนมอบอุปกรณ์สีมีกลิ่นและชุดการสอนให้กับโรงเรียนสอนคนตาบอดในความดูแลของมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และให้ศิลปินสามารถนำรายได้ต่อยอดในการเรียนรู้และสร้างสรรค์ผลงานต่ออย่างไปอย่างยั่งยืน รวมทั้งสร้างการตระหนักการรับรู้ของคนในสังคมถึงปัญหาและร่วมสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพทางศิลปะของผู้พิการทางสายตา ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดกว้างให้กับผู้พิการทางสายตาและผู้ตาดีที่จะทำงานศิลปะร่วมกันได้
คุณนราทิพย์ รัตตประดิษฐ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานปฎิบัติการบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ในฐานะหนึ่งในผู้ร่วมสนับสนุนหลักในโครงการ The Nose Thailand กล่าวว่า
ตลอดเวลาเกือบ 60 ปี กลุ่มสยามพิวรรธน์ ในฐานะผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัย ที่นำเสนอโครงการ
รูปแบบแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร และมุ่งสร้างพื้นที่สาธารณะที่เป็นประโยชน์ใจกลางเมือง และพร้อมที่จะตอบแทนคืนสู่สังคม ภายใต้แนวคิด “คิดต่าง สร้างคุณค่า” ด้วยการส่งเสริมมาตรฐานคุณภาพชีวิตที่ดีให้เกิดกับคนไทยทุกกลุ่ม
“เรามีความยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการให้การสนับสนุนพื้นที่จัดนิทรรศการและกิจกรรมส่งเสริมงานศิลปะ รวมทั้งกิจกรรมเวิร์กช็อปสำหรับคนพิการทางสายตาในครั้งนี้ เฉกเช่นกับพันธกิจของสยามพิวรรธน์ที่มุ่งสร้างและเปิดโอกาสให้ผู้คนทุกกลุ่มมาโดยตลอด เราเชื่อว่าการสนับสนุนโครงการเพื่อผู้พิการทางสายตา ในครั้งนี้ จะเป็นการสร้างโอกาสให้กับพวกเขาได้ตระหนักถึงคุณค่าและศักยภาพของตนเอง ผ่านการเติมเต็มจินตนาการ และการเรียนรู้ศิลปะร่วมกันระหว่างผู้พิการทางสายตาและผู้ที่มีสายตาดี เป็นพลังใจในการผลักดันให้พัฒนาสร้างผลงานศิลปะออกสู่สังคมต่อไป”
คุณชลิดา คุณาลัย Scent Designer ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกลิ่น ที่ดีไซน์กลิ่นให้สินค้าสารพัดอย่างมากว่า 20 ปี นับรวมตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ซักผ้าภาคพื้นเอเชีย ไปจนถึงอาหารและสถานที่ กล่าวว่า โลกของศิลปะคือโลกของการใช้ตาเห็น ทุกอย่างใช้ทฤษฎีสี สีเหลือง สีแดง สีน้ำเงิน สีขาว สีดำ เลยมองว่าสามารถใช้กลิ่นเป็นตัวบ่งบอกสีได้หรือไม่ โดยคุยกับนักศิลปะบำบัดว่าสีแต่ละสีในทางศิลปะบำบัดหมายถึงอะไร อารมณ์ความรู้สึกอะไร แล้วออกแบบกลิ่นให้ตอบโจทย์นั้น ซึ่งปรากฏว่าน้องๆ ผู้พิการทางสายตาสามารถสร้างงานศิลปะออกมาได้ดีมาก ในโลกมืดและโลกสว่างกลิ่นพาทุกคนไปหาศิลปะทั้งสิ้น โครงการนี้จึงทำให้ผู้พิการทางสายตาได้ฝึกงานปั้นหรืองานศิลปะจากกระดาษได้สม่ำเสมอ โดยใช้กลิ่นเป็นตัวนำพาจินตนาการ
“สำหรับคนที่สามารถใช้ดวงตาได้มาโดยตลอด คงไม่มีใครสังเกตว่า ประสาทสัมผัสที่ทรงพลังมากที่สุดในร่างกายมนุษย์ไม่ใช่การ ‘มองเห็น’ แต่คือการได้ ‘กลิ่น’ เพราะกลิ่นบอกอันตราย มอบความทุกข์ สร้างความสุข มอบความสุนทรีย์ เพิ่มรสชาติ สร้างความรู้สึก และบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ มากมายและนี่คือเหตุผลว่าทำไม ‘กลิ่น’ จึงเป็นสื่อกลางที่ทำให้ผู้ที่มองไม่เห็นมีโอกาสทำงานศิลปะอย่างที่ใจของพวกเขาต้องการ”คุณชลิดากล่าว
โครงการ The Nose Thailand “ศิลปะสัมผัสได้จากกลิ่น” เชื่อว่าทุกคนควรมีโอกาสเข้าถึงศิลปะ ไม่เว้นแต่ผู้ที่ไม่สมบูรณ์” กิจกรรมในครั้งนี้ เปิดโอกาสชวนทุกคนเปิดรับความไม่สมบูรณ์ของตนเองเพื่อที่จะก้าวผ่านข้อจำกัดและเดินต่ออย่างสง่างามได้ในสังคมและมาร่วมเป็นเสียงหนึ่งที่เป็นกำลังใจให้ทุกความไม่สมบูรณ์นี้ไปด้วยกันให้ศิลปะได้เข้าถึงและเข้าใจทุกความไม่สมบูรณ์ของคุณ