กรุงเทพฯ 4 ตุลาคม 2561 – สายการบินนกสกู๊ตประสบความสำเร็จในการทำสถิติการบิน ทั้งเที่ยวบินขาเข้าและขาออกจากสนามบินนานาชาตินาริตะตลอดระยะเวลาสามเดือนแรกของการบินได้ตรงเวลาที่สุด ซึ่งมีคะแนนความตรงต่อเวลาในการปฏิบัติการบิน (OTP) สูงถึง 94.68% สถิติดังกล่าวทำให้นกสกู๊ตเป็นหนึ่งในสายการบินที่ให้บริการบินที่สนามบินนาริตะที่มีคะแนน OTP ที่สูง ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสถิติที่ “ยอดเยี่ยม” ในอุตสาหกรรมการบิน
“การที่นกสกู๊ตสามารถทำสถิติการบินที่สนามบินนาริตะได้ตรงเวลามากที่สุด เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการจัดการเที่ยวบินของเราให้ตรงเวลาโดยไม่กระทบทั้งเรื่องความปลอดภัย และความสะดวกสบายของผู้โดยสาร” คุณยอดชาย สุทธิธนกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสายการบินนกสกู๊ต กล่าว
นกสกู๊ต หรืออีกชื่อหนึ่งว่า “บิ๊กเบิร์ด” ให้บริการเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ สู่สนามบินนานาชาตินาริตะ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 777-200 รองรับผู้โดยสารได้มากถึง 415 ที่นั่ง
อุตสาหกรรมการบินกำหนดขอบเขตความตรงต่อเวลาในการปฏิบัติการบิน (OTP) ให้กับเที่ยวบินที่เดินทางมาถึงหรือออกเดินทางออกจากสนามบินภายในเวลา 15 นาที ตามกำหนดการตารางบินเข้า/ออก นกสกู๊ตมีการจัดระเบียบผลการประมวลข้อมูลความตรงต่อเวลาของการบิน (OTP) ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 79.89% ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานของอุตสหากรรมการบินเมื่อเทียบกับเส้นทางบิน ทั้ง 2,521 เที่ยวบิน
นกสกู๊ตฉลองการทำสถิติการบินตรงเวลาทั้งเที่ยวบินขาเข้าและขาออกจากสนามบินนานาชาตินาริตะ ด้วยการอัพเกรดผู้โดยสาร 10 ท่านแรกที่ทำการเช็คอินทั้งขาไปและกลับ กรุงเทพฯ-นาริตะ ตั้งแต่วันที่ 5-15 ตุลาคมนี้ โดยอัพเกรดที่นั่งสำหรับผู้โดยสารที่ถือบัตรโดยสารชั้นประหยัดแบบมาตรฐานไปเป็น “Stretch Seats” ที่นั่งแถวหน้าที่มีพื้นที่วางขากว้างขวาง
นกสกู๊ต สายการบินร่วมทุนระหว่าง “สายการบินนกแอร์” ของคนไทย และ “สายการบินสกู๊ต” จากประเทศสิงคโปร์ พร้อมเปิดให้บริการเที่ยวบินตรงจากสนามบินนานาชาติดอนเมือง กรุงเทพฯ สู่สนามบินนานาชาติคันไซ เมืองโอซาก้า เป็นจำนวน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ในวันที่ 28 ตุลาคมเป็นต้นไป