นับเป็นปีที่ 5 แล้วที่ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในการจัดการพลังงาน และระบบออโตเมชั่น ได้มีการประกาศผลการดำเนินงานพร้อมกันทั้งด้านการเงิน และที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเงิน ซึ่งในแต่ละไตรมาส ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้มีการตีพิมพ์ ตัวบ่งชี้ 21 รายการจากโครงการสร้างผลลัพธ์จากความยั่งยืนของชไนเดอร์ หรือ Schneider Sustainability Impact ที่จะมีการวัดความก้าวหน้าเกี่ยวกับการดำเนินงานตามพันธสัญญาด้านการสร้างความยั่งยืนที่มุ่งมั่นสำหรับปี 2561-2563 ให้สอดรับกับพันธสัญญาของ COP21 และเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ ทั้งกลุ่มธุรกิจสามารถทำคะแนนรวมตั้งแต่ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 ได้ 7.08 จาก 10 นับเป็นการบรรลุเป้าหมายโครงการสร้างผลลัพธ์จากความยั่งยืนที่ตั้งเป้าอยู่ที่ 7 จาก 10 ภายในสิ้นปี 2562 นับว่าบรรลุเป้าหมายล่วงหน้าได้ก่อนถึงหนึ่งไตรมาส
ผลลัพธ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเงิน มีตัวบ่งชี้ดังต่อไปนี้:
กิลเลส เวอร์มอท เดสโรชส์ รองประธานบริหารอาวุโสฝ่ายความยั่งยืน ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้ให้ความเห็นว่า “ในไตรมาสนี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้เพิ่มพันธสัญญาต่อเป้าหมายในการพัฒนาความยั่งยืนของสหประชาชาติได้อย่างมีนัย เริ่มจากการเข้าร่วมใน Business for Inclusive Growth ในการทำธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างทั่วถึง (Business for Inclusive Growth) โดยร่วมมือกับบริษัทอื่นอีก 33 แห่ง เพื่อนำทางไปสู่การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำพร้อมทั้งส่งเสริมความหลากหลายในสถานที่ทำงานและซัพพลายเชนทั้งในระยะกลางและระยะยาว ทั้งนี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จะนำโซลูชัน EcoStruxureTM มาช่วยให้บรรลุเป้าหมายขององค์กรพร้อมช่วยให้ลูกค้าอีกจำนวนมากลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอน โดยนับตั้งแต่มีการเปิดตัวโครงการสร้างผลลัพธ์จากความยั่งยืน Schneider Sustainability Impact บริษัทฯ ก็ได้ช่วยให้ลูกค้าหลายรายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ ได้มากถึง 88 ล้านตัน ซึ่งการที่กลุ่มธุรกิจนำเสนอแนวทางใหม่ในการเข้าถึงพลังงาน ก็จะช่วยให้อีกหลายล้านคนทั่วโลกในประเทศที่กำลังพัฒนาสามารถตอบสนองความต้องการพื้นฐานด้านพลังงานได้ด้วยเช่นกัน”
ผลงานโดดเด่นในไตรมาส
สภาพภูมิอากาศ
– ตัวบ่งชี้เรื่อง “การคืนทุนที่เพิ่มขึ้น ในส่วนบริการด้านพลังงานและความยั่งยืนของเรา” แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่แข็งแกร่ง โดยเพิ่มขึ้น +20.2 เปอร์เซ็นต์ ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 การเติบโตที่สูงมาจากธุรกิจด้านประสิทธิภาพพลังงานร่วมกับภาคเอกชนในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยธุรกิจการจัดหาพลังงาน มีส่วนสำคัญที่สร้างการเติบโตเช่นกัน โดย Energy & Sustainability Services มุ่งเป้าเพื่อเพิ่มยอดขาย 25 เปอร์เซ็นต์ในปี 2563 จากยอดขายในปี 2560
เศรษฐกิจหมุนเวียน
– สำหรับไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 96 เปอร์เซ็นต์ของกระดาษแข็ง และแท่นวางสินค้า เพื่อการแพ็คสำหรับขนส่ง ล้วนมาจากแหล่งรีไซเคิล หรือสถานที่ที่ได้รับการรับรองในเรื่องดังกล่าว ผลลัพธ์ของประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมมาจากทีมงานที่ดี ซึ่งมุ่งเน้นการสื่อสารที่ชัดเจนกับซัพพลายเออร์ในภูมิภาคและมีการปรับ part numbers ในระบบภายในของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ให้เป็นแบบเรียลไทม์ บางภูมิภาคมีการปรับได้อย่างเหมาะสมอยู่แล้ว ในขณะที่ภูมิภาคที่เหลือก็แสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงที่ดีขึ้น มีการดำเนินการภายในภูมิภาคได้อย่างถูกต้องเหมาะสมโดยมุ่งเน้นที่ KPI เช่นเพิ่มการใช้ไม้รีไซเคิล พร้อมการศึกษาเพื่อเพิ่มอายุการใช้งานของแท่นวางสินค้า เพื่อช่วยลดความจำเป็นในการซื้อของดังกล่าวเพิ่ม
สุขภาพ และความเสมอภาค
– MIR ของไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ 0.70 ดีขึ้นกว่าเป้าที่ตั้งไว้สำหรับปี 2562 ถึง 24 เปอร์เซ็นต์ และดีขึ้นกว่าปี 2561 ถึง 26 เปอร์เซ็นต์ ศักยภาพที่โดดเด่นมาจากความพยายามร่วมกันของพนักงานชไนเดอร์ อิเล็คทริค ทั้งหมดและการปรับปรุงเรื่องของกิจกรรมจากทีมดูแลความปลอดภัยทั่วองค์กร นอกจากนี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยังมีแคมเปญประจำปีชื่อ Global Safety Day เพื่อโปรโมทความสำคัญของความปลอดภัยทั้งในสถานที่ทำงานและที่บ้าน ซึ่งได้มีการเฉลิมฉลองไปเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม หัวข้อสำหรับปีนี้คือ “S.A.F.E. First บ่งบอกถึงการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน” ทั้งนี้ Global Safety Day จะดึงพนักงานเข้ามามีส่วนร่วมในการเฉลิมฉลองพันธสัญญาเรื่องของวัฒนธรรมด้านความปลอดภัย โดยในปีนี้ แคมเปญดังกล่าวได้สร้างการรับรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ฉุกเฉินในแต่ละประเภทที่แตกต่างกันไป พร้อมกับสอนเกี่ยวกับความร่วมมือในการเตรียมพร้อมรับเหตุการณ์ที่มีแนวโน้มว่าอาจเกิดขึ้นและสร้างความเสียหายได้
จรรยาบรรณ
– ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 ได้มีการตรวจสอบซัพพลายเออร์ทั้งหมดที่อยู่ภายใต้การเฝ้าระวังเรื่องของสิทธิมนุษยชน และสิ่งแวดล้อม (Human Rights & Environment) ซึ่งเป็นโปรแกรม 3 ปี และเพิ่มเป้าในการตรวจประเมินที่ไซต์งานจาก 300 เป็น 350 แห่ง พร้อมกับที่ชไนเดอร์ อิเล็คทริคได้มีการติดตามอย่างดีเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในภาพรวม และเพื่อให้สอดคล้องกับงานวิสัยทัศน์และงานด้านกลยุทธ์ของกลุ่มธุรกิจ รวมถึงสอดรับกับกฎหมาย 2017-French law ว่าด้วยเรื่องของเฝ้าระวังภัยขององค์กร Corporate Duty of Vigilance ซึ่งชไนเดอร์ อิเล็คทริค ให้คำมั่นสัญญาว่าจะติดตั้งแผนงานการเฝ้าระวัง เรื่องดังกล่าวยังรวมถึงการระบุและบริหารจัดการซัพพลายเออร์ที่สุ่มเสี่ยงมากที่สุดในแง่ของแนวทางปฏิบัติเรื่องแรงงาน สุขภาพและความปลอดภัย รวมถึงสิ่งแวดล้อม ซึ่งการทำแผนที่เชื่อมโยงความเสี่ยง (risk mapping) ของซัพพลายในแต่ละปี จะใช้เครื่องมือในการทำ mapping ของผู้เชี่ยวชาญค่ายอื่นซึ่งได้รับการยอมรับ โดยกระบวนการในการบริหารจัดการความเสี่ยงของกลุ่มธุรกิจ ชไนเดอร์นั้นจะรวมถึงการดำเนินงานเพื่อควบคุมหลังจากที่มีการตรวจสอบ โดยเน้นที่การปรับปรุงและหยุดยั้งการดำเนินการที่ไม่สอดคล้องตามเกณฑ์
การพัฒนา
– ไตรมาส 3 ของปี 2562 มีผู้ด้อยโอกาสจำนวน 236,491 คนได้รับการฝึกอบรมเรื่องการบริหารจัดการพลังงาน ในกว่า 45 ประเทศ อีกทั้งยังมุ่งเป้าการฝึกอบรมให้ได้ 1 ล้านคนภายในปี 2568 ซึ่งโปรแกรมจะเน้นความสำคัญในเรื่องของ การเป็นผู้ประกอบการ (entrepreneurship) การรวมผู้หญิงไว้ในสายอาชีพด้านพลังงาน และการฝึกอบรมให้กับผู้อบรม (training of trainers) โดยช่วยให้ผู้เข้าร่วมโปรแกรมเข้าถึงการสร้างธุรกิจหรืองานที่มีความชำนาญได้ดีขึ้นในอนาคต ความท้าทายหลักอยู่ที่การดำเนินรอยตามนโยบายในการเป็นพันธมิตรระยะยาว ร่วมกับผู้เล่นทั้งในระดับประเทศและระดับโลกที่สามารถจัดทำโครงการหลายๆ โครงการซ้ำได้ ทั้งนี้ NGO ADEI (Action Development-Education-International) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ไม่แสวงผลกำไร ที่ดูแลเรื่องของการพัฒนาการศึกษานานาประเทศ หลังจากที่ได้จัดทำศูนย์พัฒนาขึ้น 2-3 แห่งในประเทศแทนซาเนีย และสาธารณรัฐบุรุนดี ก็ได้ยืนยันถึงความเป็นผู้เชี่ยวชาญในการจัดทำหลักสูตรระยะสั้นในศูนย์แห่งใหม่ 3 แห่งในประเทศรวันดา
สาระสำคัญ
– ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้ประกาศพันธสัญญาการดำเนินการด้านภูมิอากาศขึ้น 3 ฉบับในงาน Climate Week NYC ด้วยการสาธิตถึงความเป็นกลางด้านคาร์บอนในการขยายระบบนิเวศ ภายในปี 2568 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการปลดปล่อยคาร์บอนจากการดำเนินงานเป็นศูนย์ ภายในปี 2573 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายตามฐานทางวิทยาศาสตร์บนหลักของเหตุและผล พร้อมกับดึงซัพพลายเออร์ให้เข้ามามีส่วนร่วมในซัพพลายเชนที่ปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ (net-zero supply chain) ภายในปี 2593
– ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เป็นหนึ่งใน 99 ผู้ลงนามในสัญญา French Business Climate Pledge 2019
– ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้ให้คำมั่นสัญญาในการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำด้วยการเข้าร่วมการประชุม G7 ในความริเริ่ม “การทำธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างทั่วถึง” หรือ “Business for Inclusive Growth” ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างองค์กรข้ามชาติ 34 แห่งที่ขับเคลื่อนโดย OECD
– ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้เปิดตัว ผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อการเข้าถึงพลังงาน (Access to Energy products) ได้แก่ Mobiya Lite, Mobyia Front และ Homoya Pay As You Go เพื่อมาเสริมสายผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอ เพื่อตอบสนองความต้องการพื้นฐานด้านพลังงานของชุมชนชนบทในประเทศกำลังพัฒนา
– ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เป็นส่วนหนึ่งใน DJSI World Index ติดต่อกันเป็นปีที่ 7
– ชไนเดอร์ อิเล็คทริค อยู่ในทำเนียบท็อป 100 ของการจัดอันดับ Equileap’s Ranking 2019 ซึ่งออกแบบมาเพื่อส่งเสริมความโปร่งใสเรื่องความเสมอภาคทางเพศในสถานที่ทำงาน ซึ่งกลุ่มธุรกิจชไนเดอร์ฯ ได้รับการจัดอันดับเป็นที่หนึ่งในภาคอุตสาหกรรม และเป็นที่ 5 ในกลุ่มบริษัทสัญชาติฝรั่งเศส
– ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 9 ใน Fortune’s Change the World list 2019 โดยได้รับการยอมรับในเรื่องของเทคโนโลยีด้านการจัดการพลังงานและระบบออโตเมชัน รวมถึงนวัตกรรมธุรกิจหมุนเวียนในการคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้ยาวนาน สามารถซ่อมและนำกลับมาผลิตใหม่ได้เมื่อครบอายุการใช้งาน
– โปรแกรม Global Mobility ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้รับการยอมรับด้วยรางวัลเหรียญทองแดงในการประกาศรางวัลยอดเยี่ยม Human Capital Management Excellence Awards ของ Brandon Hall Group ในประเภท Best Unique หรือ Innovative Workforce Management Program
– ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้รับการจัดให้เป็นสถานที่ทำงานที่ดีที่สุดในปี 2562 (2019 Best Workplaces) ในสาย Manufacturing & Production โดย Great Place to Work และ Fortune