IWG เผยการเปิดใจยอมรับความหลากหลายจะช่วยต่อยอดโอกาสทางธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น

Google+ Pinterest LinkedIn Tumblr +

กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย – 18 มิถุนายน 2562 –  จากค่าเฉลี่ยกว่าร้อยละ 31 ของผู้หญิงที่ทำงานและอาศัยอยู่ในประเทศไทยนั้นมีแนวโน้มที่จะดำรงตำแหน่งในระดับบริหาร ซึ่งเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับบริษัทชั้นนำต่าง ๆ ระดับโลกมีผู้หญิงเพียงร้อยละ 24  ที่ได้ดำรงตำแหน่งในระดับประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ CEO ในบริษัทชั้นนำที่ได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์จูน ทั้ง 500 อันดับ (Fortune 500 Companies)ซึ่งหากคิดเป็นสัดส่วนของผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จกลับมีอัตราน้อยกว่าหนึ่งในสี่ หรือคิดเป็นร้อยละ 24 ของพนักงานทั้งหมดในระดับบริหารตามรายงานของนิตยาสารฟอร์จูนในปี 2561 แต่อย่างไรก็ตามพฤติกรรมและทัศนคติเกี่ยวกับผู้หญิงในระดับบริหารในปัจจุบันกำลังเปลี่ยนแปลงไป

จากผลสำรวจของปี 2562 โดย Ipsos (อิปซอสส์) บริษัทสำรวจและวิจัยตลาดจากประเทศฝรั่งเศสได้ทำการเผยผลสำรวจว่ากว่าร้อยละ 75 ของผู้ตอบแบบสอบถามทั่วโลก รู้สึกสบายใจที่จะทำงานร่วมกับหัวหน้าที่เป็นผู้หญิง ซึ่งหากเปรียบเทียบกับผลสำรวจเกี่ยวกับช่องว่างระหว่างเพศในการทำงานที่จัดทำโดย IWG ผู้ดำเนินการบริหารแบรนด์ผู้ให้บริการพื้นที่สำนักงานชั้นนำระดับโลก  ในปี 2561 อย่าง Regus (รีจัส) Spaces (สเปซเซส) HQ (เอชคิว) Signature (ซิกเนเจอร์) และนัมเบอร์เอธทีน (No.18) ที่เผยให้เห็นว่ากว่าร้อยละ 69 ของพนักงาน IWG ที่เป็นผู้บริหารระดับกลางเป็นผู้หญิง และในกลุ่มผู้บริหารระดับสูงของ IWG ที่เป็นผู้หญิงมีจำนวนสูงถึงร้อยละ 41 ของ IWG เช่นเดียวกับ IWG ประเทศไทยที่ได้มีผู้บริหารหญิงมากกว่าร้อย 70 ของพนักงานทั้งหมดในประเทศไทย   โดยมีส่วนช่วยในการขยับขยายแบรนด์พื้นที่สำนักงานภายใต้ IWG ร่วมกันถึงสามแบรนด์ซึ่งประกอบด้วย Regus (รีจัส), Spaces (สเปซเซส) และ HQ (เอชคิว)

ทางด้านคุณลอเรน ไวบเบอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายดูแลลูกค้า และ คุณฟาติมา คอนนิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายของ IWG กล่าวว่า “สาเหตุที่IWG ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เป็นผลมาจากวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดรับความหลากหลายทางทรัพยากรบุคคลที่มอบความยืดหยุ่นและความสมดุลในการทำงานเป็นค่านิยมหลักเสมอ”

“นับตั้งแต่วันแรกที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ IWG ฉันสัมผัสได้ถึงความหลากหลายของพนักงานภายในองค์กร อย่างสำนักงาน IWG เมืองบาร์เซโลน่า ในประเทศสเปน ที่มีการใช้ภาษากว่า 40 ภาษาในการสื่อสาร ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจและประทับใจมาก และทำให้ฉันได้รู้ทันทีเลยว่าได้เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรที่มีค่านิยมในแบบเดียวกัน” ฟาติมา กล่าวเสริม

“ในฐานะที่เป็นหัวหน้างาน เธอได้ความพยายามในการสานต่อเจตนารมย์ ในการส่งเสริมความหลากหลายของทรัพยากรบุคคลด้วยความเชื่อว่าความหลากหลายนี้มีส่วนช่วยส่งเสริมการทำงานของบุคคลากรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นหนึ่งในพันธกิจที่ฉันจะต้องสร้างทีมที่มีมุมมองในรูปแบบเดียวกันและสร้างโอกาสที่เท่าเทียมกันให้กับผู้หญิงในก้าวขึ้นสู่ระดับบริหาร และตัวฉันเองก็ได้เป็นส่วนหนึ่งของโอกาสระหว่างการทำงานที่ IWG”

“ทุก ๆ อย่างจะยิ่งดีไปกว่านี้หากผู้นำหญิงสามารถที่จะเป็นผู้นำในองค์กรได้ โดยมีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการพัฒนาอาชีพอย่างมีคุณภาพ มีประสบการณ์มากพอและช่วยกันส่งเสริมให้ผู้หญิงนั้นประสบความสำเร็จต่อไป”

จากผลสำรวจพื้นที่การทำงานทั่วโลก โดย IWG เมื่อเร็ว ๆ นี้ สามารถสรุปได้ว่า กว่าร้อยละ 83 ของพนักงาน มีแนวโน้มที่จะปฏิเสธการร่วมงานกันกับองค์กรที่ขาดความยืดหยุ่นในการทำงาน ซึ่งปัจจัยด้านความยืดหยุ่นในการทำงานนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละองค์กรในการให้ความสำคัญต่อความยืดหยุ่นและความเท่าเทียมกันในการทำงานภายในองค์กร

มร. ลาส์ วิททิก รองประธานฝ่ายขายประจำภูมิภาคอาเซียนของ IWG กล่าวว่า “เห็นได้ชัดว่าเทคโนโลยีนั้นสามารถมอบความยืดหยุ่นในการทำงานได้อย่างแท้จริง ซึ่งมันถึงเวลาที่จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีต่าง ๆ และปล่อยให้คนของเราทำงานได้อย่างยืดหยุ่น ดังนั้นหากหัวหน้างานสามารถช่วยให้พนักงานจัดการเวลาและพื้นที่ส่วนตัวในชีวิตได้อย่างลงตัว  มันจะช่วยให้พนักงานรู้สึกผ่อนคลายและมีกำลังใจในการทำงาน รวมไปถึงจะการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานนั้นดียิ่งขึ้น”

“IWG ส่งเสริมความเสมอภาคและความเท่าเทียมกันระหว่างพนักงานทในทุกระดับ ซึ่งเราตระหนักดีว่าความหลากหลายทางเพศและวัฒนธรรมมีความสำคัญในการสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่งและยั่งยืน ดังนั้นเราจึงทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่พึงประสงค์สำหรับทุกคน เพราะเราเชื่อว่าเรามีความแข็งแกร่งพอในการริเริ่มความเท่าเทียมกันและสิ่งเหล่านี้จะฝังอยู่ภายในฝ่ายทรัพยากรบุคคลและกระบวนการปฏิบัติงานของเราตลอดไป” มร. ลาส์ วิททิก กล่าวปิดท้าย

อ่านต่อ
Share.

Comments are closed.