กรุงเทพฯ, ประเทศไทย (22 พฤษภาคม 2562): WeWork—แพลตฟอร์มสำหรับนักสร้างสรรค์ซึ่งมอบพื้นที่ ชุมชนและบริการเพื่อช่วยให้ผู้คนใช้ชีวิตไม่ใช่เพียงแค่ทำงานแถลงข่าวการเข้าสู่ตลาดไทยอย่างเป็นทางการในวันนี้ พร้อมเปิดตัว WeWork Labs ในประเทศไทย และสองโลเคชั่นแรกที่อาคารเอเชียเซ็นเตอร์ (Asia Centre) ถนนสาทร และอาคารทีวัน (T-One) ถนนสุขุมวิท กรุงเทพมหานคร
ด้วยจุดแข็งที่มีจากความต้องการของลูกค้าทั้งธุรกิจใหญ่ และธุรกิจขนาดไมโคร ขนาดย่อมและขนาดกลางในการเข้าร่วมชุมชนสตาร์ทอัพของWeWork เราเริ่มธุรกิจในประเทศไทยเป็นครั้งแรกที่สาทร ซึ่งเป็นย่านธุรกิจสำคัญในกรุงเทพฯ ณ อาคารเอเชียเซ็นเตอร์ ตามด้วย WeWork บนอาคารทีวัน ทองหล่อ ซึ่งเป็นย่านที่ทันสมัยและสร้างสรรค์ที่สุดแห่งหนึ่ง โดยที่เอเชียเซ็นเตอร์นั้น WeWork มีพื้นที่ทั้งหมด 5 ชั้นเพื่อต้อนรับสมาชิกจำนวน 1,200 คน ในขณะที่ WeWork ที่อาคารทีวันมีพื้นที่ 7 ชั้นสำหรับสมาชิก 1,700 คน
“ในขณะที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่การพัฒนาเศรษฐกิจในเฟสใหม่ที่อยู่บนรากฐานของการเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้เทคโนโลยี WeWork มีความมุ่งมั่นในการเป็นพันธมิตรกับประเทศไทยเพื่อการบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจ “ประเทศไทย 4.0” ด้วยการเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนโฉมตลาดระดับกลางด้วยการปรับใช้นวัตกรรมมากขึ้นในการเพิ่มประสิทธิภาพ” นายทูโรฮาส “ที” ฟูวาด กรรมการผู้จัดการใหญ่กล่าว “ในขณะที่เราขยายธุรกิจออกไปมากขึ้นเราเห็นศักยภาพมหาศาลในการตอบความต้องการของลูกค้าธุรกิจขนาดไมโคร ขนาดเล็กและขนาดกลาง ไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่ที่จัดอันดับโดยฟอร์จูน 500 ที่มองมายังเราในการหาโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพสำหรับพื้นที่ที่มีความยืดหยุ่นและมีคุณภาพสูงควบคู่ไปกับการช่วยเร่งการเติบโตของธุรกิจในอีโคซิสเต็มไทยที่ขับเคลื่อนด้วยเครือข่ายระดับโลก”
ในขณะเดียวกัน WeWork Labs แพลตฟอร์มด้านวัตกรรมของ WeWork ที่เน้นการเติบโตของสตาร์ทอัพในระยะเริ่มแรกและขับเคลื่อนนวัตกรรมของภาคเอกชนได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยที่อาคารเอเชียเซ็นเตอร์ ซึ่งจะเริ่มสร้างจุดยืนอันเป็นเอกลักษณ์ในการเชื่อมโยงชุมชน WeWorkทั้งสองแห่งสำหรับบริษัทที่ต้องการสร้างสรรค์นวัตกรรมและสตาร์ทอัพในระยะเริ่มแรกที่กำลังมองหาแนวทางการเจริญเติบโตและสร้างธุรกิจให้มั่นคง
“ในขณะที่เรากำลังพัฒนาและสรรสร้างขุมพลังใหม่เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วยนวัตกรรม เราพบว่าสตาร์ทอัพในเมืองไทยต้องการโอกาสใหม่ๆ ทั้งในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และระดับโลก เพื่อดึงดูดการลงทุนและเปิดตลาดใหม่ๆ” ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า “ด้วยความเชี่ยวชาญของ WeWork Labs ในการพัฒนาขีดความสามารถและเร่งการเติบโตของสตาร์ทอัพและธุรกิจด้านนวัตกรรม เรามั่นใจว่าการเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดระหว่าง NIA และ WeWork จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ระบบนิเวศนวัตกรรมในประเทศไทย”
การเปิดตัวทั้งสองโครงการนี้เป็นการฉลองก้าวที่สำคัญของ WeWork ในการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนในไทยบนจุดแข็งด้านเครือข่ายระดับโลกในขณะที่สนับสนุนสตาร์ทอัพในระยะแรกเริ่ม และธุรกิจที่ต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในวงการ การเข้าสู่ตลาดในศูนย์กลางของกรุงเทพจะทำให้ย่านธุรกิจนี้เชื่อมโยงกับศูนย์กลางนวัตกรรมและชุมชนสร้างสรรค์ได้มากขึ้น ตามความตั้งใจของ WeWork ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมาย“ประเทศไทย 4.0”
ประสานความเชี่ยวชาญของ WeWork ในด้านการออกแบบ เทคโนโลยี และชุมชนเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้สมาชิกในประเทศและระดับภูมิภาค
การเข้าสู่กรุงเทพฯ ภายใต้แผนการขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทำให้ WeWork มีพื้นที่รวม 19 แห่งและสมาชิกกว่า 13,000 คนทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพียงแค่หนึ่งปีที่ผ่านมา การเข้ามาสู่ตลาดในประเทศไทยของ WeWork เป็นครั้งแรกนี้เป็นการยืนยันถึงกลยุทธ์ใหญ่ของ WeWork ในระดับภูมิภาคทั้งที่สิงคโปร์ โฮจิมินห์ซิตี้ มะนิลา จาการ์ตา และกัวลาลัมเปอร์
WeWork ณ อาคารเอเชียเซ็นเตอร์และอาคารทีวันตั้งอยู่ท่ามกลางสถานที่ที่ผู้คนทำงานและพักผ่อนในใจกลางกรุงเทพฯ และเป็นพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของ WeWork ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พื้นที่ทั้งสองแห่งพร้อมต้อนรับสมาชิกทั้งที่เป็นบริษัทระดับโลก วิสาหกิจขนาดกลางและย่อม สตาร์ทอัพ และคนทำงานอิสระ ตามความมุ่งมั่นของ WeWork ในการเชื่อมโยงผู้คนเข้าหากัน
ด้วยความยึดมั่นในพันธกิจของ WeWork ในการสนับสนุนสมาชิก WeWork กำลังเติบโตและเข้าสู่กรุงเทพฯ เพื่อเชื่อมโยงผู้คนเข้าหากันด้วยการออกแบบที่ชาญฉลาดที่พร้อมโอบอุ้มชุมชนและสร้างโอกาสให้กับสมาชิก ปัจจุบัน WeWork เอเชียเซ็นเตอร์เป็นที่ทำงานของสมาชิกในหลากหลายสาขา เช่น มีจีเนียส (MeGenius) ผู้พัฒนา AIYA (AI-Your Assistance) แชทบอทและระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM Chat bot) ในขณะที่ WeWork บนอาคารทีวันมีสมาชิกอย่างเช่น วงใน (Wongnai) ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มยอดนิยมบนโทรศัพท์มือถือด้านอาหารและไลฟสไตล์
“การเชื่อมโยงเข้ากับอีโคซิสเต็มของสตาร์ทอัพสำคัญต่อการเข้าสู่ตลาดอย่างรวดเร็วและความสำเร็จในระยะยาวของธุรกิจ การที่เราเลือกมาอยู่ที่WeWork จึงเหมาะกับเรา เนื่องจากเรากำลังมองหาโอกาสในการเข้าถึงศูนย์กลางของอีโคซิสเต็มที่เข้มแข็งและกลุ่มคนเก่ง” คุณบอย อัจฉริยะ ดาโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง มีจีเนียส กล่าว “การได้อยู่ในชุมชน WeWork ยังทำให้เราติดต่อสื่อสารกับผู้ที่สนใจลงทุนและพันธมิตรทางธุรกิจซึ่งสำคัญต่อสตาร์ทอัพที่จะประสบความสำเร็จ และเราก็ได้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากพื้นที่ที่สร้างความร่วมือของผู้คน”
“ในขณะที่เรากำลังทำให้ธุรกิจเติบโต เราก็มองการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแอปพลิเคชันของเราและมองหาพื้นที่ที่มีความคล่องตัวและอีโคซิสเต็มของผู้ประกอบการที่เข้มแข็งที่จะทำให้เราสร้างนวัตกรรมได้อย่างต่อเนื่อง” คุณยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งวงในกล่าว “เราเห็นว่าทีมของเราเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่มีพลวัต เราจึงเห็นความสำคัญของพื้นที่ที่เราจะเข้าไปทำงานว่าต้องเอื้อต่อการสร้างความร่วมมือในการทำงานที่ดีขึ้น และการที่เราได้เชื่อมต่อกับเครือข่ายทั่วโลกของ WeWork ทำให้เราได้เข้าถึงโอกาสที่มากขึ้น ซึ่งจะเร่งให้เราเติบโตสู่เป้าหมายได้เร็วขึ้น”
สร้างอีโคซิสเต็มของสตาร์ทอัพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตอบโจทย์ในการสร้างโอกาสและนวัตกรรมแก่สตาร์ทอัพในระยะเริ่มแรก ผู้ประกอบการ และธุรกิจทั่วโลก
WeWork Labs ที่เอเชียเซ็นเตอร์เพิ่มขีดความสามารถนวัตกรรมรุ่นใหม่ และมีศักยภาพในการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานในประเทศสำหรับสตาร์ทอัพให้ดีขึ้นด้วย accelerators ห้องปฏิบัติการนวัตกรรมของธุรกิจ และพันธมิตรทางธุรกิจ
นอกจากบริการหลากหลายสำหรับนวัตกรรมทั้งที่ให้แก่สตาร์ทอัพที่เพิ่งเริ่มก่อตั้ง ผู้เร่งอัตราการเติบโตของธุรกิจ (accelerators) ผู้บ่มเพาะธุรกิจตั้งแต่เริ่มต้น (incubators) และกองทุนร่วมลงทุน (VCs) รวมถึงองค์กรขนาดใหญ่ WeWork Labs ยังมอบทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนธุรกิจของสตาร์ทอัพที่เพิ่งเริ่มก่อตั้งให้เติบโต WeWork Labs ยังเป็นพันธมิตรกับ accelerators และ incubators รวมทั้งกองทุนร่วมลงทุนเพื่อสร้างพันธมิตรที่จะช่วยขับเคลื่อนให้ธุรกิจสตาร์ทอัพไปสู่ความสำเร็จรวมทั้งสร้างชุมชนที่เข้มแข็งภายในอีโคซิสเต็มของสตาร์ทอัพ
“การที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เติบโตอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน กรุงเทพฯ จึงเป็นโลเคชั่นที่สองของ WeWork Labs ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแสดงถึงสถานะของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมสำหรับนักธุรกิจในประเทศและทั่วโลกที่สามารถสร้างศักยภาพและโอกาสให้แก่ภูมิภาคท่ามกลางประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่มีความสำคัญมากขึ้น” นายเอเดรียน ทาน ผู้อำนวยการ Labs ของ WeWork ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าว “การมี WeWork Labs ทำให้เรายังคงมุ่งมั่นในการสร้างอีโคซิสเต็มในประเทศผ่านแพลตฟอร์มเพื่อช่วยส่งเสริมและปลดล็อคศักยภาพของสตาร์ทอัพในระยะเริ่มต้นด้วยการจัดหาทรัพยากรเชิงกลยุทธ์เพื่อนำธุรกิจและความคิดสร้างสรรค์ไปสู่ระดับโลก”
โดยความเชื่อมโยงกับการทำงานร่วมกันระหว่างองค์กรธุรกิจและสตาร์ทอัพ วิสาหกิจ บริษัท และบริษัทชั้นนำระดับฟอร์จูน 500 ในการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบสนองต่อความท้าทายทางธุรกิจที่สำคัญสุด WeWork Labs มอบคุณค่ายิ่งไปกว่าพี้นที่ เราเป็นพลังระดับโลกที่สนับสนุนผู้ประกอบการและธุรกิจให้ทำงานบนพื้นฐานความคิดที่พลิกโฉมโลก
บนบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อสร้างความร่วมมือที่ได้ทำกับ Ngee Ann Polytechnic ประเทศสิงคโปร์ ณอาคารเอเชียเซ็นเตอร์ ในเดือนธันวาคม2561 โดยได้รับการสนับสนุนจากโครงการฝึกงานด้านการประกอบการระดับโลกของสิงคโปร์ (Global Entrepreneurial Internship Program -GEIP) WeWork และสถาบันการศึกษาจะร่วมมือกันในด้านต่าง ๆ เช่น โครงการฝึกอบรมร่วมที่ออกแบบเฉพาะที่เตอบความต้องการของชุมชนในเมืองสำคัญๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ กรุงเทพฯ โฮจิมินห์ซิตี้ และจาการ์ตา
สำหรับพื้นที่แต่ละแห่งนั้นจะมีผู้จัดการ Labs ประจำเพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานและผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมที่มุ่งเน้นความสำเร็จของสมาชิก โดยสมาชิกสามารถเข้าถึงทรัพยากรที่หลากหลาย ตั้งแต่การเสวนาโต๊ะกลม การบรรยายไปจนถึงการประชุมแบบตัวต่อตัวและอื่น ๆ อีกมากมายเพื่อความเข้าใจเรื่องการบัญชี การตลาด การจ้างงานและการนำเสนอให้แก่ผู้ลงทุนในอนาคต ในอนาคต WeWork Labs จะมุ่งสร้างโอกาสให้แก่พันธมิตร นักลงทุน และผู้ขายในประเทศเพื่อส่งเสริมการเติบโตด้านนวัตกรรมธุรกิจในอนาคตทั้งในระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทั่วโลก
WeWork Economy ช่วยให้ผู้คนและธุรกิจเติบโต สร้างพลังของชุมชนในพื้นที่ และเร่งการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
WeWork ยังเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับผู้คนและธุรกิจเพื่อให้ดำเนินการได้บรรลุตามวัตถุประสงค์ รวมทั้งสนับสนุนให้เกิดผลต่อเนื่องเชิงบวกต่อเศรษฐกิจในพื้นที่ใกล้เคียงและเมืองต่าง ๆ ล่าสุด WeWork เพิ่งเปิดตัวรายงานผลต่อโลก ( Global Impact Report) เพื่อวัดผลทางเศรษฐกิจของชุมชนของเราใน 75 เมืองทั่วโลก
WeWork เชิญผู้คนใหม่ ๆ ธุรกิจ และกิจกรรมทางเศรษฐกิจมาสู่พื้นที่ใกล้เคียง โดยร้อยละ 70 ของสมาชิก WeWork เป็นสมาชิกใหม่ของชุมชนในแต่ละโลเคชั่น และ 1 ใน 10 ได้ย้ายเข้ามาพักอาศัยใกล้ที่ตั้งของ WeWork นับตั้งแต่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิก ซึ่งนับเป็นประโยชน์ทางธุรกิจที่มากขึ้นสำหรับร้านค้า ร้านกาแฟ ร้านอาหาร และผับในพื้นที่ใกล้เคียง
นอกจากเป็นตัวทวีคูณที่ทรงพลังทางเศรษฐกิจในเมืองแล้ว ยังเป็นตัวทวีคูณทางเศรษฐกิจโลกโดยเฉลี่ยทั่วโลกที่ 1.7 เท่า ซึ่งจะเพิ่มการใช้จ่ายและภาษีนับหลายล้าน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลในท้องถิ่นและในระดับรัฐ โดยธุรกิจของ WeWork ได้เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และสนับสนุน GDP ทั่วโลกเป็นมูลค่ากว่า 1.223 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 3.9 ล้านล้านบาท หรือเทียบเท่าขนาดของเศรษฐกิจในเมืองเช่น แวนคูเวอร์ ดับลิน หรือออสติน
การที่ WeWork เข้ามามีบทบาทในประเทศไทยไม่ว่าจะในด้านการทำงาน การใช้ชีวิต การศึกษา สุขภาพและการค้าปลีก เรามุ่งหวังที่จะสร้างจินตนาการใหม่ ปรับโฉมและปรับรูปแบบทางสถาปัตยกรรมเพื่อการออกแบบพื้นที่ อาคารและเมือง เพื่อสนับสนุนการเชื่อมโยงระหว่างผู้คนและความคิดสร้างสรรค์ในประเทศในขณะที่กำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการเติบโต
คุณบอย อัจฉริยะ ดาโรจน์ ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง บ. มีจีเนียส, คุณทูโรฮาส “ที” ฟูวาด กรรมการผู้จัดการใหญ่ WeWork Southeast Asia, ดร. กริชผกา บุญเฟื่อง รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) คุณตัน ภาสกรนที ซีอีโอ อิชิตัน กรุ๊ป, คุณยอด ชินสุภัคกุล ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง บ. วงใน และคุณเอเดรียน ตัน หัวหน้าห้องปฏิบัติการ WeWork Southeast Asia ร่วมพิธีเปิด WeWork ทีวัน ถ. สุขุมวิท กรุงเทพฯ เพื่อฉลองการเข้าสู่ตลาดไทยของ WeWork
ดร. กริชผกา บุญเฟื่อง รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวบรรยายในงานเปิดตัว WeWork ทีวัน ถ. สุขุมวิท กรุงเทพฯ โดยแสดงความมั่นใจถึงความสอดคล้องของกลยุทธ์ของ WeWork ต่อนโยบายของประเทศไทยในการผลักดันอีโคซิสเต็มของสตาร์ทอัพ
คุณทูโรฮาส “ที” ฟูวาด กรรมการผู้จัดการใหญ่ WeWork Southeast Asia กล่าวในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการของการเข้าสู่ตลาดของ WeWork ในประเทศไทยด้วยสองที่แรกในกรุงเทพที่อาคารทีวันและอาคารเอเชียเซ็นเตอร์
นายเอเดรียน ตัน หัวหน้าห้องปฏิบัติการ WeWork Southeast Asia บอกเล่าสื่อมวลชนถึงการเปิดตัว WeWork Labs ในประเทศไทยและการช่วยสตาร์ทอัพและธุรกิจให้เติบโตในระดับภูมิภาคและระดับโลก
คุณยอด ชินสุภัคกุล ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งวงใน (กลาง) และคุณบอย อัจฉริยะ ดาโรจน์ ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง AIYA (ขวา) ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ในฐานะสมาชิกของ WeWork ในงานเปิดตัวของ WeWork ทีวัน ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ