กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 24 ธันวาคม 2562: IWG ผู้นำด้านธุรกิจให้บริการพื้นที่ทำงานที่ยืดหยุ่นระดับโลก เป็นเจ้าภาพจัดงานสัมมนาครั้งยิ่งใหญ่ภายใต้หัวข้อ ‘Speed of Change’ ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาเปลี่ยนวิธีการทำงานของเรา เหล่าผู้บรรยายต่างเสวนาถึง การปรับตัวทางธุรกิจว่าควรทำอย่างไรเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของพนักงานที่มีการเปลี่ยนแปลง และใช้ประโยชน์จากจุดนี้ในการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมการทำงานให้ทันสมัยใหม่มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ภายในงานสัมมนาที่จัดขึ้นในโซนคลีเอทีฟเวิร์คสเปซที่ สเปซเซส (Spaces) ณ ตึกเอ็มไพร์ทาวเวอร์ ได้มีการเชิญชวนเหล่าผู้นำธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ มาร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็น นักลงทุน ผู้บริหารทั้งจากองค์กรไทยและต่างชาติ รวมถึงตัวแทนจากสมาคมการค้ายูโรเปียนเพื่อธุรกิจและการพาณิชย์ (EABC) หอการค้าเนเธอร์แลนด์ไทยพาณิชย์ (NTCC) หอการค้าเยอรมัน-ไทย(GTCC) และหอการค้าไทย-แคนาดา ประจำประเทศไทย (CanCham Thailand)
นายลาร์ส วิททิก ผู้จัดการประจำประเทศของ สเปซเซส รีจัส และเอชคิว ภายใต้ IWG ในประเทศไทย ฟิลลิปปินส์ เวียดนาม กัมพูชา และเกาหลีใต้ ผู้นำการเสวนาในงานครั้งนี้ ได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ในหัวข้อ Speed of Change ว่า “โลกที่เรารู้จักกำลังเปลี่ยนแปลงและพัฒนาก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งคาดว่ากว่า 500 บริษัทที่เรารู้จักกันทุกวันนี้อาจจะไม่เป็นเหมือนอย่างที่เราเคยรู้จักอีกต่อไปในอีก 15 ปีข้างหน้า การปรับตัวและความว่องไวในการทำธุรกิจได้กลายเป็นบรรทัดฐานใหม่อย่างรวดเร็ว และหลายธุรกิจต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวและร่วมมือกันเพื่อให้เกินความสำเร็จ”
จากผลสำรวจที่จัดทำขึ้นโดย รีจัส (Regus) แสดงให้เห็นว่า ในปัจจุบันมีโต๊ะทำงานตามออฟฟิศที่ถูกทิ้งว่างหรือไม่ได้ใช้ประโยชน์เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 55 “สถิตินี้ทำให้หลายคนค่อนข้างพอใจ ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน เล็งเห็นประโยชน์ตรงนี้ในการประหยัดค่าใช้จ่ายจากการลดพื้นที่สำนักงานและรายจ่ายประจำ ในขณะที่ผู้จัดการฝ่ายบริหารบุคคลสามารถใช้โอกาสนี้ในการดึงดูดให้ผู้คนมาสมัครงานเพราะพวกเขาสามารถทำงานได้อย่างยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น โดยผลสำรวจ Global Workspace พบว่ากว่าร้อยละ 83 ของพนักงานทั่วโลกอาจจะปฏิเสธตำแหน่งงานที่มีสภาพการทำงานที่ไม่ยืดหยุ่น เนื่องจากพนักงานที่มีความสามารถมักเลือกทำงานกับบริษัทที่มีความยืดหยุ่นมากกว่า สิ่งนี้ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงความต้องการของคนยุคมิลเลนเนียลที่ชอบมีเวลาในการพบปะสังสรรค์และเข้าสังคม” นายลาร์ส วิททิก กล่าวเสริม
นอกจากนี้ อีกผลการสำรวจโดย JLL ยังได้มีการคาดการณ์ว่าภายในปี พ.ศ. 2573 ร้อยละ 30 ของพื้นที่สำนักงานจะมีความยืดหยุ่นมากขึ้น IWG จึงได้มอบสิทธิประโยชน์ที่พิเศษกว่าที่อื่นโดยมีการให้บริการพื้นที่สำนักงานหลากหลายรูปแบบที่เหมาะกับธุรกิจทุกประเภท ซึ่งบริษัทต่าง ๆ สามารถเลือกเพิ่มหรือลดขนาดได้ตามความต้องการโดยไม่ต้องเสียรายจ่ายประจำหรือต้นทุนเพิ่ม
นายแยน เอริกสัน ประธานสมาคมการค้ายูโรเปียนเพื่อธุรกิจและการพาณิชย์ หนึ่งในผู้บรรยายรับเชิญภายในงานได้กล่าวเน้นถึงการเปลี่ยนแปลงของข้อบังคับต่าง ๆ ที่ประเทศไทยควรพิจารณาแก้ไข เพื่อให้ประเทศก้าวทันการเปลี่ยนแปลงที่เกินขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการแก้ไขปัญหาเรื่องการจัดเก็บภาษี การดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น การทำงานของระบบกฎหมายและหลักนิติธรรม การขอใบอนุญาตทำงานและขอวีซ่า รวมถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการต่อต้านการทุจริต
นายลาร์ส วิททิก ได้กล่าวสรุปประเด็นต่าง ๆ และปิดการสัมมนาด้วยประโยคของนักวิทยาศาสร์ชื่อดังอย่าง ชาร์ลส์ ดาร์วิน ว่า “ผู้ที่อยู่รอดไม่ใช่ผู้ที่เข้มแข็งที่สุดหรือผู้ที่ฉลาดที่สุด หากเป็นผู้ที่สามารถปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงได้มากที่สุดต่างหาก”
ปัจจุบัน IWG เปิดให้บริการพื้นที่ทำงานและสำนักงานที่ยืดหยุ่นกว่า 3,400 สาขา ในกว่า 1,000 เมือง ของ 120 ประเทศทั่วโลก ลูกค้าในประเทศไทยสามารถเลือกหนึ่งในสามแบรนด์ที่ IWG ได้เปิดให้บริการ ได้แก่ รีจัส สเปซเซส และเอชคิว ซึ่งล้วนตั้งอยู่ในทำเลทองทั่วประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ และศรีราชา เพื่อดึงดูดทั้งนักลงทุน บริษัทสตาร์ทอัพ บริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง รวมถึงบริษัทต่างชาติ และเมื่อเร็ว ๆ นี้ IWG ได้เปิดตัวพื้นที่สำนักงานแห่งใหม่ล่าสุดในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ สเปซเซส (Spaces) ที่ซอยพหลโยธิน 19 อีกด้วย
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ IWG Thailand และการจองพื้นที่ สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ที่ www.regus.co.th และ www.spacesworks.com