กรุงเทพฯ 16 กันยายน 2562 – กลุ่มดุสิตธานี พร้อมเปิดให้บริการ “บ้านดุสิตธานี” เต็มรูปแบบ 18 กันยายนนี้ หลังปรับปรุง “บ้านศาลาแดง” ที่งดงามและโดดเด่นสะดุดตาด้วยสถาปัตยกรรมจากยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 และบริเวณโดยรอบที่รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวให้กลายมาเป็น “บ้านดุสิตธานี” ดึงร้านอาหารชั้นนำจากโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ เปิดให้บริการ ทั้งดุสิต กูร์เมต์, เบญจรงค์ และเธียนดอง หวังรักษาแบรนด์และฐานลูกค้าเก่า พร้อมเดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่ ด้วยอาหารคุณภาพมาตรฐาน “ดุสิตธานี” ในบรรยากาศที่เป็นกันเอง พร้อมศึกษาโมเดลร้านอาหารที่ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภค หวังใช้เป็นต้นแบบให้การปรับปรุงร้านอาหารในโรงแรมแห่งใหม่
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจาก “บ้านดุสิตธานี” ได้ทยอยเปิดให้บริการในเฟสแรก เริ่มจากดุสิต กูร์เมต์ ซึ่งให้บริการในรูปแบบคาเฟ่ ที่มีทั้งอาหารจานหลัก เครื่องดื่มและเบเกอรี่ ต่อเนื่องมาจนถึงห้องอาหารเบญจรงค์ ซึ่งให้บริการอาหารไทย ปรากฏว่า ได้รับการตอบรับจากลูกค้า ทั้งลูกค้าเดิมของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ และลูกค้าใหม่อย่างคึกคัก ทำให้มั่นใจว่า หลังจากเปิดให้บริการห้องอาหารเวียดนาม “เธียนดอง” ในวันที่ 18 กันยายน ซึ่งเป็นการเปิดตัว “บ้านดุสิตธานี” เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการจะได้รับการตอบรับอย่างดีมากอีกเช่นกัน
ทั้งนี้ หลังจากโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ยุติการให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือนมกราคม 2562 ที่ผ่านมา เพื่อปรับปรุงและเตรียมพื้นที่สร้างโรงแรมแห่งใหม่ที่จะเป็นสัญลักษณ์ใหม่ของกรุงเทพฯ ภายใต้โครงการมิกซ์ยูส “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” มูลค่า 3.6 หมื่นล้านบาท กลุ่มดุสิตธานีได้เดินหน้าขยายการลงทุน รวมถึงบริการในรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งโครงการ “บ้านดุสิตธานี” เป็นหนึ่งในนั้น
โดย “บ้านดุสิตธานี” เป็นร้านอาหารแบบ Stand Alone แห่งแรกของกลุ่มดุสิตธานี ที่ตัดสินใจลงทุนด้วยการทำสัญญาเช่าบ้านสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่สองที่มีความสวยงาม ทรงคุณค่าด้านงานสถาปัตยกรรม รายล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียวของพันธุ์ไม้ต่างๆ โดยมีขนาดพื้นที่กว้างขวางถึง 4.5 ไร่ ตั้งอยู่ในซอยศาลาแดง ใจกลางกรุงเทพมหานคร ภายใน “บ้านดุสิตธานี” ประกอบด้วยบ้านหลังใหญ่ ที่พัฒนาเป็นห้องอาหารเบญจรงค์ และบ้านหลังรอง ที่ปรับปรุงเป็นดุสิต กูร์เมต์ ส่วนโกดังหรืออาคารเก็บของด้านหลัง พัฒนาเป็นร้านอาหารเธียนดอง และยังมีศาลาเต้นรำหรือ Dancing Hall ที่เหมาะสำหรับการจัดเลี้ยง รวมถึงสวนสวยและสระว่ายน้ำ ที่ปรับปรุงบริเวณรอบๆ ให้เป็นบาร์เครื่องดื่มริมสระที่เรียกว่า Garden Bar สำหรับการพบปะสังสรรค์ในยามค่ำ
“วัตถุประสงค์ในการตัดสินใจลงทุนโครงการ “บ้านดุสิตธานี” นอกจากจะเป็นโอกาสอันดีในการดูแลพนักงานของเราในช่วงที่รอโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งใหม่กลับมาแล้ว เรายังต้องการรักษาแบรนด์ “ดุสิตธานี” ให้เป็นที่กล่าวถึงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเป็นการรักษาฐานลูกค้าเก่าของเราไว้ และขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาอาจจะยังไม่เคยใช้บริการร้านอาหารในโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งเดิมเลย เนื่องจากต้องยอมรับว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป หลายครั้งที่เราพบว่า แม้ลูกค้าจะเข้าพักที่โรงแรม แต่นิยมไปรับประทานอาหารข้างนอกเพื่อสัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่น ดังนั้น นอกจากการเปิดโครงการ “บ้านดุสิตธานี” จะเป็นโชว์เคสที่ทำให้ลูกค้าได้ลองสัมผัสกับดุสิตธานีที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งรูปแบบการให้บริการ และการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมของการตกแต่งแบบเดิมและแบบใหม่แล้ว ยังจะทำให้เราสามารถศึกษารูปแบบและไลฟ์สไตล์การใช้บริการของผู้บริโภค เพื่อใช้เป็นโมเดลสำหรับการหาความลงตัวเรื่องรูปแบบและรสชาติของอาหารและบริการที่สามารถตอบโจทย์ทั้งลูกค้าที่รอคอยการกลับมาและลูกค้าในอนาคต” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานีกล่าว
สำหรับจุดเด่นของโครงการ “บ้านดุสิตธานี” นั้น นอกจากจะตั้งอยู่ในพื้นที่ใจกลางเมืองที่เดินทางสะดวกทั้งรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีศาลาแดง และรถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ทีสถานีสีลมแล้ว รูปแบบของตัวบ้านโบราณยังสวยงาม ทรงคุณค่า โดยได้รับการปรับปรุงและตกแต่งให้คงสภาพความงามไว้เหมือนเดิม แต่มีความสะดวกสบายเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกัน บรรยากาศโดยรวมที่แวดล้อมด้วยต้นไม้และพื้นทีสีเขียวจะช่วยเพิ่มความรู้สึกสดชื่นมากยิ่งขึ้น และความหมายของคำว่า “บ้าน” ยังสะท้อนถึงความอบอุ่น บ่งบอกถึงความเป็น “ดุสิตธานี” ที่ยึดมั่นแนวทางการให้บริการกับลูกค้าด้วยความจริงใจ เป็นกันเองและอบอุ่น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะกลับมาอีกครั้งพร้อมกับโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งใหม่
ทางด้านของบริการอาหารนั้น นอกจากจะมีเมนูเด่นที่นำมาจากห้องอาหารต่างๆ ของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งเดิมแล้ว โครงการ “บ้านดุสิตธานี” ยังเน้นอาหารเพื่อสุขภาพ โดยนำวัตถุดิบออร์แกนิคจากชุมชนท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์จากชุมชนตามนโยบายของดุสิตธานี รวมถึงการให้บริการจากพนักงานมาตรฐานดุสิตธานีอีกด้วย ที่พิเศษกว่านั้นคือ “บ้านดุสิตธานี” ยังเปิดกว้างสำหรับลูกค้าที่นำสัตว์เลี้ยงเข้ามา โดยทางดุสิต กูร์เมต์จะมีบริการอาหารสำหรับสุนัขและมีพนักงานช่วยดูแลสัตว์เลี้ยงของลูกค้าในระหว่างที่ลูกค้าใช้บริการ ทั้งหมดนี้ทำให้มั่นใจว่า หลังจากเปิดให้บริการเต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการแล้ว โครงการ “บ้านดุสิตธานี” จะกลายเป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมจากผู้บริโภคอย่างแน่นอน
“เราเชื่อว่า บ้านดุสิตธานีจะเป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิตที่สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นด้านสถาปัตยกรรมและการตกแต่งที่ผสมผสานระหว่างของเดิมที่มีอยู่กับสิ่งที่เราเพิ่มเติมเข้าไป โดยแต่ละร้านจะตกแต่งแตกต่างกันด้วยเอกลักษณ์และบรรยากาศที่แตกต่างกัน ซึ่งจะเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าของเรา” นางศุภจีกล่าว
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบ้านดุสิตธานีได้ที่ www.baandusitthani.com