TMB ABSOLUTE บัตรเครดิตระดับบน โชว์เอกสิทธิ์เหนือชั้น “คุ้ม” ยิ่งกว่าด้วยชอปปิ้งออนไลน์ คะแนน X2 จัดหนักแลกไฟล์ทไวสุดพลัง

Google+ Pinterest LinkedIn Tumblr +

ทีเอ็มบี ผุดไอเดียสร้างสรรค์บัตรเครดิตระดับบน TMB ABSOLUTE Visa Signature เปิดตลาดเพิ่มยอดลูกค้าสินเชื่อบุคคลไตรมาสสาม คาดเพิ่มมากกว่า40,000 ใบในปีนี้และส่งผลให้ยอดสินเชื่อโตกว่า 25% เล็งกลุ่มเป้าหมายลูกค้ารายได้ค่อนข้างสูง ไลฟ์สไตล์กิน เที่ยว ชอป มองความคุ้มค่าเป็นเรื่องใหญ่ แค่ถือใบเดียวก็เกินพอ

เดินหน้าจัดหนักจัดเต็มสิทธิพิเศษที่เหนือชั้น โดดเด่นกว่าใคร ชอปออนไลน์เพิ่มคะแนน ทีเอ็มบี รีวอร์ด พลัส เป็น 2 เท่า ทำให้แลกไฟล์ทได้ไวกว่าที่เคยเพียง12.5 บาทเท่ากับ 1 ROP ไมล์ นับเป็นแบงก์แรกที่ให้มากที่สุดในตลาด พร้อมสร้างกฎเกณฑ์ใหม่ให้แตกต่างด้วยการเป็นบัตรเครดิตใบแรกของไทยที่สามารถใช้รูดต่างประเทศได้ โดยไม่เสียค่าความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสกุลเงิน (FX) 2.5% สะท้อนมิติใหม่ในการให้บริการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง สอดรับกับแนวคิด ลูกค้าทีเอ็มบีต้องได้รับมากกว่า (Get MORE with TMB)

นับเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ใหม่ในวงการธนาคารของไทย เมื่อทีเอ็มบีลุกขึ้นมาประกาศเปิดตัวบัตรเครดิตใหม่ เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบนโดยเฉพาะ โดยกล้าที่จะเสนอสิทธิพิเศษให้ลูกค้ามากกว่าแบงก์อื่น โชว์เหนือด้วยการสร้างความแตกต่าง และฉีกกฎเกณฑ์เดิม หลังจากศึกษาฐานข้อมูลและวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้ากลุ่มผู้มีรายได้สูงของไทย ซึ่งมีอยู่จำนวน 10% ของคนไทยทั้งหมด นิยมใช้บัตรเครดิตในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเป็นหลัก ทั้งการกินอยู่  ซื้อของ หรือท่องเที่ยว ส่งผลให้คนๆ หนึ่งต้องพกบัตรเครดิตหลายใบ เพื่อไว้ใช้ตามวาระของสิทธิประโยชน์ หรือตามประเภทของบัตร จึงเป็นที่มาของการสร้างสรรค์บัตรเครดิตที่ให้เอกสิทธิ์ต่างๆ คุ้มกว่าใครด้วยการถือบัตร “TMB ABSOLUTE Visa Signature” เพียงใบเดียว

นายจเร เจียรธนะกานนท์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์สินเชื่อรายย่อย ทีเอ็มบี ชี้แจงถึงพฤติกรรมในด้านต่างๆ ของลูกค้ามีนัยยะที่น่าสนใจ ซึ่งนอกเหนือจากสถิติการใช้จ่ายทั่วไปที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว พบว่ายอดใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์ของกลุ่มลูกค้าระดับบนเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 49% โดยใช้ผ่านบัตรเครดิตคิดเป็นมูลค่ารวมสูงถึง 204,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 17% จึงคาดการณ์ได้ว่าแนวโน้มการใช้จ่ายในอนาคตน่าจะไปทุ่มให้ตลาดออนไลน์เป็นหลัก สอดคล้องกับทิศทางการขยายตัวของตลาดอีคอมเมิร์สในไทยที่เติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 14% จากปี 2560  จึงเป็นที่มาของการคิดค้นบัตรเครดิต “TMB ABSOLUTE Visa Signature” ที่ให้คะแนนไวกว่า ทุกๆ การใช้จ่าย 10 บาทเท่ากับ 1 คะแนน และที่พิเศษกว่าสำหรับนักชอปออนไลน์เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ทีเอ็มบี แอบโซลูท คือการส่งมอบสิทธิพิเศษ รับคะแนนสะสม 2 เท่า นั่นคือ 10 บาทเท่ากับ 2 คะแนน จึงเทียบเท่า 12.5 บาทเท่ากับ 1 ROP ในทันที นับเป็นธนาคารแรกที่จะทำให้ทุกการใช้จ่ายของลูกค้าสามารถแลกไฟล์ทได้เร็วขึ้น

ความโดดเด่นที่เหนือกว่า และแตกต่างอย่างที่ทีเอ็มบีมุ่งเน้นมาตลอด นั่นคือ ความกล้ายอมทิ้งรายได้จากค่าธรรมเนียมจากลูกค้า ด้วยการไม่เก็บค่าความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสกุลเงิน (FX) 2.5% จากการใช้รูดใช้จ่ายผ่านบัตรในต่างประเทศด้วยสกุลเงินต่างประเทศ โดยไม่จำกัดช่องทางการใช้จ่าย และสกุลเงินต่างประเทศ และยังสบายใจกับอัตราแลกเปลี่ยนที่ถูกเทียบเท่าร้านรับแลกเงินและยังได้คะแนนสะสม ทีเอ็มบี รีวอร์ด พลัส (TMB Rewards Plus) ซึ่งหลังจากศึกษาไลฟ์สไตล์ลูกค้าที่ผ่านมา พบสถิตินักท่องเที่ยวไทยเสียค่า FX Rate จากการรูดบัตรมากกว่า 3,600 ล้านบาทในปี 2561 อีกทั้งพฤติกรรมกลุ่มลูกค้าระดับบนมียอดใช้จ่ายในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 24% และมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในต่างประเทศคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 120,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้น 8% จากปี 2560 โดยสถิติการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวสอดคล้องกับการขยายตัวของสถิติคนไทยท่องเที่ยวต่างประเทศมากขึ้นอย่างแน่นอน

ไม่เพียงเท่านั้น บัตรเครดิต “TMB ABSOLUTE Visa Signature” ยังส่งสิทธิประโยชน์ที่ให้มากกว่าอย่างต่อเนื่อง อาทิ สิทธิพิเศษแลกรับเครดิตเงินคืนได้เร็วขึ้นกว่าเดิม 7,500 คะแนน จะได้รับเครดิตเงินคืนเข้าบัญชี 500 บาท ตลอดจนความคุ้มครองกรณีของหายหรือได้รับของไม่ตรงสเปค จะได้รับเงินชดเชยตามมูลค่าของสินค้าสูงสุด 5,000 บาทต่อครั้ง หรือ 10,000 บาทต่อปี เมื่อชอปปิ้งผ่านช่องทางออนไลน์ที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1,000 บาท ขึ้นไป รวมทั้งสิทธิ์ในการคุ้มครองอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางสูงสุด 16 ล้านบาท พร้อมบริการห้องรับรองพิเศษที่สนามบินทั่วโลก 2 สิทธิ์ต่อปี อีกทั้งสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย ตอกย้ำเจตนารมย์หลักที่จะทำให้ลูกค้าได้รับผลประโยชน์ที่มากกว่าด้วยการถือบัตรเพียงใบเดียวก็เพียงพอแล้ว

นายจเร กล่าวต่อว่า จากสถิติการใช้จ่ายต่างๆ มั่นใจว่าบัตรเครดิต TMB ABSOLUTE คือบัตรเครดิตใบเดียวที่จะสามารถตอบโจทย์ในทุกการใช้จ่ายและไลฟ์สไตล์สุดชิคในปัจจุบันได้ พร้อมทั้งทำให้ลูกค้าได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ได้รวดเร็วกว่า นับเป็นการเสนอทางออกของปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขให้กับกลุ่มลูกค้าระดับบน อีกทั้งทีเอ็มบียังมองเห็นศักยภาพในเชิงการตลาด และต้องการเจาะฐานลูกค้าที่รายได้ค่อนข้างสูง ที่มีรูปแบบการใช้ชีวิตที่ไม่หยุดนิ่ง  มีความสนใจสิ่งรอบตัว และมีความใส่ใจในตัวเอง มีวิสัยทัศน์ในการใช้ชีวิตเพื่อสร้างคุณค่าให้เกิดขึ้นกับตัวเองและผู้อื่น มีการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันที่หลากหลาย และมีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาชีวิตตนเองเพื่อไปสู่ความสำเร็จ

“ทีเอ็มบีคาดสามารถสร้างฐานลูกค้าบัตรเครดิตระดับบนได้เพิ่มขึ้น ซึ่งตั้งเป้าบัตรประเภทใหม่นี้ไว้ที่ 40,000 ใบในปีนี้ จากปัจจุบันมีผู้ใช้อยู่ประมาณ 200,000ใบ  และคาดว่าจะช่วยขับเคลื่อนให้การใช้จ่ายบัตรในต่างประเทศโตมากกว่า 12 % ยอดสินเชื่อเติบโตกว่า 25% รวมทั้งมีส่วนผลักดันการเติบโตรวมให้กับแบงก์เพิ่มขึ้นจากปีก่อน (2561) มากกว่า 10% พร้อมวางเป้าหมายในการเป็นธนาคารที่ครองใจผู้บริโภคมากที่สุด ขณะเดียวกันก็เตรียมสร้างสรรค์และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่อยู่บนพื้นฐานแนวคิด Get MORE with TMB  ลูกค้าทีเอ็มบีต้องได้รับมากกว่าและยังคงยึดปรัชญาสร้างความแตกต่าง Make THE Difference ควบคู่กันไป” นายจเร กล่าวทิ้งท้าย

อ่านต่อ
Share.

Comments are closed.